ท่านเฮี้ยนจั๋งบันทึกต่อไปว่ามีกษัตริย์ แห่งอินเดียภาคกลางพระองค์หนึ่งทรงสร้างสังฆารามที่ ๖ ขึ้นทางทิศเหนือของสังฆารามที่ ๕ และทรงสร้างกำแพงสูงล้อมสังฆารามทั้ง ๖ แห่งไว้ภายใน มีประตูใหญ่เข้า-ออก เพียงประตูเดียว(อยู่ทาง ทิศใต้) จึงทำให้เกิดคำเรียกสังฆารามทั้ง ๖ แห่งรวมกันว่า นาลันทามหาวิหาร มาตั้งแต่บัดนั้น (ทั้งหมดนั้นท่านเฮี้ยนจั๋งบันทึกตามจดหมายเหตุเก่าของนาลันทาซึ่ง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนท่านไปถึงนานพอสมควร) เพื่อให้เข้าใจโครงสร้างดังกล่าวนี้ชัดขึ้น ขอให้พิจารณาข้อสังเกตต่อไปนี้ ข้อสังเกตที่ ๑ ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ รามศังการ์ ตริปาฐิ (Rama Shankar Tripathi) เขียนลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ของกษัตริย์แห่งราชวงศ์คุปตะไว้ในหนังสือ History of Ancient India (๑๙๔๒, p.๒๖๖) ดังนี้ ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์นี้ช่วยให้การศึกษาผู้สร้างสังฆาราม ๕ แห่งของกษัตริย์แห่งราชวงศ์นี้ได้ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับข้อสังเกตต่อไป ข้อสังเกตที่ ๒ ผู้สร้างสังฆาราม ลาลมณีโจชิ (Lal Mani Joshi) กล่าวถึงผู้สร้างสังฆารามทั้ง ๖ แห่งข้างต้นต่างไปจากที่ท่านเฮี่ยนจั๋งบันทึกไว้ดังนี้ ๑. ผู้สร้างสังฆารามที่ ๒ คือ พระเจ้าสกันทคุปตะ ๒. ผู้สร้างสังฆารามที่ ๓ คือ พระเจ้าปุรุคุปตะ ๓. ผู้สร้างสังฆารามที่ ๔ คือ พระเจ้านรสิงหคุปตะ ๔. ผู้สร้างสังฆารามที่ ๕ คือ พระเจ้ากุมารคุปตะที่ ๒ ๕. ผู้สร้างสังฆารามที่ ๖ คือ พระเจ้าหรรษะ๑ (คงหมายถึงพระเจ้าหรรษาวรรธนะแห่งอาณาจักรกาโนช ซึ่งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศในปัจจุบัน) แต่อุเปนทระ ฐากุร (Late Prof. Upendra Thakur) แย้งว่า ผู้สร้างสังฆารามที่ ๖ ไม่ใช่พระเจ้าหรรษาวรรธนะแน่นอน เพราะท่านเฮี่ยนจั๋งไปอินเดียใน รัชสมัยพระเจ้าหรรษาวรรธนะ (และได้รับพระราชูปถัมภ์จากกษัตริย์พระองค์นี้โดยตลอด จึงไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่ท่านไปอินเดียแน่) อุเปนทระ ฐากุร เสนอว่า ผู้สร้างสังฆารามที่ ๖ และกำแพงสูงล้อมสังฆารามทั้ง ๖ แห่ง คือ พระเจ้ายโศวรมเทวะ (Yasovarmadeva แต่พบที่อื่นใช้ว่า ยโศธรมัน-Yasodharman) แห่งราชวงศ์เมาขรี ผู้ครองมาลวะ (พ.ศ. ๑๐๖๖-๑๐๘๗) เพราะพบศิลาจารึกนาลันทาระบุว่าพระองค์ทรงปกครองอาณาจักรอันกว้างขวางรวมถึงภาคกลางของอินเดียด้วย๒